คนอยากทำธุรกิจออนไลน์ตอนนี้ต้องวิ่งไล่ตามให้ทัน E-Commerce เป็นกลยุทธ์หรือแพลตฟอร์ม เจาะลึกเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจ E-Commerce ให้คุณได้เก็บไปพัฒนากับธุรกิจของคุณไม่ว่าจะในตอนนี้หรืออนาคต E-Commerce คืออะไร ธุรกิจแบบไหนที่เหมาะกับการทำการตลาดรูปแบบ E-Commerce บ้าง
E-Commerce คืออะไร
E-Commerce คือ การซื้อขายสินค้าผ่านระบบอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือ Marketplace ก็ตาม ในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งหลังสถานการณ์โรคระบาด การซื้อขายแบบ E-Commerce ยิ่งมีการเติบโตมากขึ้น ธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่เริ่มนำสินค้า และบริการของตัวเองขึ้นโชว์บนโลกออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจ E-Commerce นอกจากจะให้ความสะดวกสบายในการซื้อแล้ว ยังมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย มีแทบจะทุกสิ่ง ทุกบริการ ไม่เพียงเท่านั้นการซื้อขายออนไลน์ยังสะดวกสบายสำหรับการชำระเงิน และการจัดส่งสินค้าอีกด้วย
ธุรกิจ E-Commerce มีกี่ประเภท
สำหรับธุรกิจ E-Commerce มีอยู่ด้วยกัน 6 ประเภทธุรกิจ คือ
1. ธุรกิจ B2C ( Business to Consumer ) หรือธุรกิจซื้อขายระหว่างผู้ประกอบการและผู้บริโภคโดยตรง เช่นการขายเสื้อผ้า อาหาร
2. ธุรกิจ B2B (Business to Business) เป็นธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้ประกอบการและผู้ประกอบการด้วยกัน ขายสินค้าจากโรงงานที่ผลิตไปยังร้านค้า เพื่อจำหน่ายให้ลูกค้ารายย่อยต่อไป
3. ธุรกิจ B2G (Business to Government) ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ ซึ่งจะเป็นในด้านการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าที่จำเป็นสำหรับหน่วยงานผ่านทางอินเทอร์เน็ต
4. ธุรกิจ C2C (Consumer to Consumer) คือธุรกิจซื้อขายกันระหว่างผู้บริโภคและผู้บริโภคด้วยกัน เช่นการซื้อ – ขาย สินค้ามือ 2
5. ธุรกิจ G2C (Government to Consumer) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและประชาชน เช่น การเสียภาษีออนไลน์ จดทะเบียนการค้า
6. ธุรกิจ G2G (Government to Government) คือการทำธุรกิจซื้อขายกันระหว่างภาครัฐและภาครัฐ การทำข้อตกลงหรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต
การทำ E-commerce มีช่องทางไหนบ้าง
ธุรกิจ E-Commerce สามารถเปิดช่องทางให้การจำหน่ายสินค้าได้หลายช่องทาง แต่ละช่องทางจะมีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อกลางการซื้อขาย ช่องทางที่พบเห็นในปัจจุบันคือ
- เว็บไซต์ คือการจัดจำหน่ายผ่านหน้าเว็บไซต์เจ้าของสินค้าและบริการนั้น ๆ เป็นการขายจากเจ้าของแบรนด์โดยตรง แต่ต้องใช้ต้นทุนในการสร้างเว็บไซต์ในการซื้อขายแบบธุรกิจ E-Commerce ซึ่งมีต้นทุนค่อนข้างสูง เหมาะกับแบรนด์ที่ติดตลาด และมีคนรู้จักในวงกว้างแล้ว
- Marketplace คือเว็บไซต์ที่จะทำหน้าที่เป็นตลาดออนไลน์ให้เจ้าของกิจการได้ทำสินค้าและบริการของตนฝากขายบนเว็บนี้ และมีเงื่อนไข ข้อตกลงค่าบริการตามอัตราที่ทางเว็บ Marketplace กำหนด ยกตัวอย่างเช่น Shopee, Lazada เป็นต้น
- Social Commerce เป็น E-Commerce ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ การขายรูปแบบนี้จะขายผ่าน Facebook IG หรือแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้อย่าง TikTok รวมทั้ง Line ที่ตอนนี้มีการพัฒนาให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้เลย ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเงินในการสร้างมากมายนักแต่อาจจะต้องมีการทำโฆษณากับแพลตฟอร์มเหล่านั้น ขยายการเป็นที่รู้จักออกไปเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย
ประโยชน์ของ e-commerce กับการทำธุรกิจ
ธุรกิจ E-Commerce มีประโยชน์อย่างมากสำหรับธุรกิจในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ผู้ซื้อเท่านั้นแต่ผู้ขายก็สามารถนำเสนอสินค้าได้หลายช่องทางมากขึ้น และยังมีประโยชน์อีกหลายข้อ คือ
1. ช่วยขยายช่องทางการขาย
ธุรกิจ E-Commerce จะช่วยในการขยายช่องทางการขายของสินค้าและบริการมากขึ้น เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้าง ไม่ต้องจำกัดอยู่เพียงแค่กลุ่มเดียว มีโอก าสขยายการเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกง่ายกว่าการทำธุรกิจแบบ Offline
2. ช่วยลดต้นทุน
E-Commerce จะช่วยลดต้นทุนในการเปิดหน้าร้าน ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าเข้าไปแต่เปลี่ยนมาเป็นหน้าร้านออนไลน์ที่มีรายละเอียดสินค้าครบถ้วน ทั้งยังสามารถให้ลูกค้าเห็นรูปสินค้าจริงได้อย่างละเอียดด้วย
3. เข้าถึงและจัดเก็บข้อมูลลูกค้าได้ง่ายขึ้น
ในการทำธุรกิจ E-Commerce นั้นเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์ ผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรง เพราะฉะนั้นการรวบรวมข้อมูลจึงง่าย เพราะจะมี Data เก็บเป็นข้อมูลอยู่แล้ว และยังสามารถวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างละเอียดเพื่อใช้ในการปรับปรุงต่อยอดอีกด้วย
4. เพิ่มโอกาสในการขาย
แน่นอนว่าโอกาสในการขายต้องเพิ่มมากขึ้นหากมีคนรู้จักธุรกิจมากขึ้น ธุรกิจ E-Commerce จะช่วยเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี นอกจากการนำสินค้าขึ้นโชว์บนโลกอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังสามารถยิงโฆษณาให้ผู้คนเห็นเป็นวงกว้างมากขึ้นด้วย
5. ลูกค้าเข้าถึงได้ตลอดเวลา
ธุรกิจ E-Commerce คือตลาดออนไลน์ที่ไม่ต้องเฝ้าหน้าร้าน ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งในปัจจุบันมีวิธีการตอบแชตลูกค้าอัตโนมัติเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้น ทำให้ลูกค้าเข้ามาเลือกชม และตัดสินใจซื้อได้ตลอดเวลา
สรุปบทความ
และนี้คือธุรกิจ E-Commerce ที่เอามาฝากกัน คนทำธุรกิจจำเป็นต้องวิ่งตามให้ได้ E-Commerce ให้ความสะดวกสบายทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านที่เข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง การประหยัดต้นทุนในการเปิดโชว์รูม แต่ก็ไม่ใช่จะมีแค่ข้อดี ในการซื้อขายแบบ E-Commerce นั้น บางเว็บยังไม่มีระบบการตรวจสอบการชำระเงินจากลูกค้าที่ปลอดภัยมากพอ ทำให้เกิดการฉ้อโกงขึ้น ปัญหาตรงนี้สามารถแก้ไขด้วย บริการตรวจสลิปโอนเงิน ที่พร้อมให้คุณได้ใช้ตรวจสอบสลิปของลูกค้าว่าเป็นของจริง 100% ไม่สวมรอยหรือปลอมแปลง อุ่นใจสำหรับผู้ขาย ไม่ต้องระแวงว่าสลิปที่โอนมานั้นใช้ของจริงหรือเปล่า
แท็ก:
หมวดหมู่: บทความ
บทความที่เกี่ยวข้อง
7 วิธีการตรวจสอบสลิปปลอม เพื่อป้องกันการโดนโกงจากมิจฉาชีพ
ง่ายสุดๆ วิธีการตรวจสอบสลิปปลอม เพื่อป้องกันการโดนโกงจากมิจฉาชีพ แนะนำระบบตรวจสลิปปลอมผ่านไลน์จาก Thunder Solution ที่สะดวก รวดเร็วRead more
การใช้ AI ตรวจสลิปปลอม เพิ่มความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
เรียนรู้ การใช้ AI ตรวจสลิปปลอม เพิ่มความปลอดภัย ลดข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ รวมถึงวิธีการทำงานและข้อดี โดยใช้ AI ตรวจสลิปปลอมRead more
ระบบตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ ตัวอย่างวิธีการทำงานและการใช้งาน
การใช้งาน ระบบตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ มีวิธีการทำงานและการใช้งานอย่างไรบ้าง รูปแบบของ ระบบตรวจสอบสลิปอัตโนมัติ มีอะไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบRead more