เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารยุคใหม่ ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ร้านมีประสิทธิภาพ

เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารที่กำลังมาแรงในยุคนี้

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็มักพบเห็นร้านอาหารหรือคาเฟ่ทยอยเปิดตัวใหม่ในทุกตรอกซอกซอยตลอดเวลา ใครที่กำลังอยู่ในช่วงวางแผนเตรียมตัวก้าวเท้าเข้ามาดำเนินธุรกิจนี้อยู่ จึงต้องมีการบริหารจัดการอย่างยอดเยี่ยมกับโจทย์ที่จะทำอย่างไรให้ลูกค้าติดใจและอยากกลับมาอีกครั้ง เพราะในสมรภูมินี้มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง หากต้องการยอดขายที่ประสบความสำเร็จ แค่รสชาติที่อร่อยและบริการที่ดีอาจจะยังไม่พอ ในวันนี้เราจึงได้รวบรวม 7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร ที่พร้อมจะเปลี่ยนโฉมร้านอาหารของคุณเข้าสู่ยุคใหม่ เพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้มากยิ่งขึ้น

7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารที่กำลังมาแรงในยุคนี้

ในปัจจุบันนี้หากใครที่กำลังประกอบธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารหรือคาเฟ่ให้อยู่รอดปลอดภัยในยุคที่มีการ Disruption ทางเทคโนโลยี นับว่าเป็นเรื่องที่มีความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะผู้ที่อยู่รอดคือผู้ที่ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องของการบริหารจัดการร้านให้เป็นระบบแล้ว ยังมีส่วนช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี มาดูกันว่า 7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร ที่จะเปลี่ยนโฉมร้านอาหารเข้าสู่ยุคใหม่มีอะไรบ้าง

1. ระบบ Self-Service ลูกค้าสั่งอาหารผ่านหน้าจอ

สำหรับเทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารอย่างแรกที่อยากแนะนำคือระบบจัดการร้านอาหารแบบ Self-Service เพียงแค่ลูกค้าก้าวเท้าเข้ามาในร้าน พนักงานเดินไปที่โต๊ะของลูกค้าแล้วมอบแท็บเล็ต หรือติดตั้งป้าย QR Code ไว้ที่โต๊ะ เพื่อให้ลูกค้าสามารถสแกนผ่านสมาร์ตโฟนแล้วสั่งอาหารได้ในทันที โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดหน้าที่ของพนักงาน ลดความผิดพลาดของออเดอร์ ลดปัญหาการยืนรอคิวสั่งอาหาร และยังช่วยมอบความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี

2. เครื่องเรียกคิวไร้สาย Wireless Queue Calling System

การจัดการคิวที่ไม่เป็นระบบ เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของร้านอาหารและคาเฟ่ ในหลายครั้งลูกค้าที่มาก่อนแต่ได้ทีหลัง หรือลูกค้ามาทีหลังแต่ได้ก่อน ปัญหาเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับลูกค้าเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลูกค้าหนีหายและไม่กล้ากลับมาใช้บริการอีก ซึ่งปัจจุบันมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า Wireless Queue Calling System ระบบเรียกคิวไร้สายที่มีไฟและเสียงแจ้งเตือนเพื่อให้ลูกค้ารับรู้ได้ว่าถึงคิวหรือได้อาหารแล้ว หรือระบบเรียกคิวผ่านแอปพลิเคชันที่ให้ลูกค้าสามารถไปเดินเล่นในระหว่างที่รอคิวก่อนได้ เพื่อไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอที่หน้าร้านเป็นเวลานาน

3. ลงทุนกับระบบจัดการร้านอาหาร Point of Sales

ระบบ POS หรือ Point of Sales ในยุคนี้ได้ถูกพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด โดยที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่เพียงคิดเงินและทอนเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังสามารถจัดเก็บข้อมูลที่มีความจำเป็นต่อร้านอาหารได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การรายงานยอดขายได้แบบเรียบไทม์ รายวัน รายเดือน หรือรายปี นอกจากนี้ยังสามารถดูจำนวนวัตถุดิบคงเหลือ โปรโมชันร้าน รวมทั้งทำงานร่วมกับระบบ CRM ช่วยจัดการสมาชิกและการสะสมแต้มได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ประกอบการร้านอาหารหรือคาเฟ่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนธุรกิจได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์การลงทุนและช่วยเพิ่มยอดขายได้ในระยะยาว

4. เข้าร่วมกับ Food Aggregator เพื่อบริการส่งอาหารถึงหน้าบ้านลูกค้า

Food Aggregator คือตัวกลางระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหาร เครื่องดื่มกับผู้บริโภคที่จะช่วยให้เรื่องของการสั่งอาหารเป็นเรื่องที่ง่ายแค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซึ่งลูกค้าสามารถกดสั่งออเดอร์ผ่านแอปพลิเคชันแล้วรออยู่ที่ผ่านได้แบบไม่ต้องออกมาซื้อที่ร้าน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างมาก ในประเทศไทยมี Food Aggregator อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น LINEMAN, Grab Food, Robinhood หรือ Food Panda เป็นต้น นอกจากนี้ ยังช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ได้อีกด้วย และการถ่ายภาพเมนูและเครื่องดื่มให้สวยงาม รวมถึงจัดโปรโมชันบ่อย ๆ จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากดสั่งออเดอร์ให้ร้านของเราได้มากขึ้น

5. ตอบรับสังคมไร้เงินสดด้วยระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัส

 เทคโนโลยีร้านอาหาร

เพราะในปัจจุบันนี้ ผู้คนพกเงินสดน้อยลงและหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่าน Mobile Banking มากขึ้น นอกจากเรื่องของการเตรียม e-Payment ให้ลูกค้าไว้ได้ชำระเงินแล้ว อย่าลืมเตรียมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ระบบโอนเงิน บัตรเครดิต บัตรเดบิต สแกนจ่ายด้วย QR Code หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกค้า

6. เลือกซัพพลายเออร์มืออาชีพ เพื่อส่งวัตถุดิบถึงหน้าร้าน

ผู้ประกอบการควรเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่มีความเป็นมืออาชีพ มีประสบการณ์สูง และมีความน่านับถือ เพราะจะช่วยในเรื่องของการบริหารจัดการสินค้าได้อย่างแม่นยำ โดยที่ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียเวลาตื่นเช้าไปซื้อของที่ตลาด ตัดปัญหาตุนวัตถุดิบจนใช้ไม่ทัน และยังสามารถจำกัดงบประมาณในการสั่งวัตถุดิบได้อีกด้วย

7. ระบบตรวจสอบสลิปปลอมผ่าน API

ในทุกวันนี้ผู้คนหันมาทำธุรกรรมการเงินผ่าน Mobile Banking กันมากยิ่งขึ้น หรือเรียกง่าย ๆ ว่านิยมสแกนจ่ายสินค้าผ่าน QR Code กันมากกว่าการใช้เงินสด จึงทำให้เหล่ามิจฉาชีพได้ปลอมแปลงสลิปปลอมขึ้นมาเพื่อใช้หลอกลวงพ่อค้า แม่ค้า และผู้ประกอบการร้านค้าต่าง ๆ การเลือกใช้ผู้ให้บริการตรวจสลิปปลอมผ่านไลน์อย่าง Thunder Solution จึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดี เพราะในเวลาที่คุณทำการตรวจสอบสลิปการโอนเงินด้วยตัวเองอาจเกิดการตกหล่นและเกิดความผิดพลาดจนทำให้ขาดทุนได้

Thunder Solution จะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของการตรวจสลิปปลอม เพียงแค่สมัครสมาชิกแล้วเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับธุรกิจร้านค้าของคุณ ทำการติดตั้ง API ที่ไลน์ร้านค้าก็สามารถเริ่มต้นบริการตรวจสอบสลิปปลอมผ่านไลน์ได้ทันที ด้วยการศึกษาและพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาสลิปปลอม ซึ่งสามารถตรวจสอบสลิปโอนเงินที่ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 วินาที และให้ความแม่นยำสูงถึง 100% เพื่อลดภาระงานต่าง ๆ ของร้านค้าและป้องกันให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

Thunder Solution พัฒนาระบบตรวจสอบการโอนเงินอย่างรัดกุม โดยมีระบบคุ้มกันข้อมูลหลายขั้น และไม่มีนโยบายส่งต่อข้อมูลของผู้ใช้งานต่อให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือนำไปใช้โดยไม่ยินยอม เพราะฉะนั้นร้านค้าสามารวางใจในระบบเช็คสลิปปลอมผ่าน API ของ Thunder Solution ได้แน่นอน 100%

สรุปเทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร

สรุปเทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหาร

สุดท้ายนี้ เมื่อเทรนด์เทคโนโลยีที่มีความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นอยู่ตลอดเวลา ผู้ประกอบจึงต้องมีการปรับตัวและก้าวให้ทันอยู่เสมอ รวมทั้งอย่าลืมนำ 7 เทรนด์เทคโนโลยีร้านอาหารที่เราได้แนะนำไปปรับใช้กับร้านอาหารหรือคาเฟ่ของคุณ เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการร้านเป็นไปอย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มกำไรและลูกค้ากลุ่มใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ตอบโจทย์การทำธุรกิจได้ในระยะยาว

แท็ก:

หมวดหมู่: ข่าวสาร, บทความ

บทความที่เกี่ยวข้อง